สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนกรกฎาคม 2564

สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนกรกฎาคม 2564

avatar

Administrator


109


<p><strong>สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนกรกฎาคม 2564</strong></p>

<p><strong>ภาพรวม</strong></p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;ดัชนีราคาผู้บริโภค หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกรกฎาคม 2564 ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า&nbsp;</strong>โดยมาตรการ&nbsp;&nbsp; ลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาล และการลดลงของราคาอาหารสดบางประเภทยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ราคาสินค้ากลุ่มพลังงานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;เงินเฟ้อในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวร้อยละ 0.45 (YoY)</strong>&nbsp;ชะลอตัวจากร้อยละ 1.25&nbsp;ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวต่อเนื่องของ<strong>สินค้าในกลุ่มพลังงานที่ร้อยละ&nbsp;</strong><strong>6.30&nbsp;</strong>และการสูงขึ้นของ<strong>อาหารสดบางประเภท&nbsp;</strong>อาทิ เนื้อสุกร ไข่ไก่และผลไม้สด ตามความต้องการในช่วงล็อกดาวน์ ประกอบกับเกิดโรคระบาดในสุกรส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง นอกจากนี้ ไข่ไก่และผลไม้สด ฐานราคาของปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำ ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ทั้ง<strong>การลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา&nbsp;</strong>ในรอบเดือนกรกฎาคม &ndash; สิงหาคม 2564 และ<strong>การลด</strong><strong>ค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา</strong>&nbsp;รวมทั้ง&nbsp;<strong>การลดลงของอาหารสดบางประเภท&nbsp;</strong>(ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผักสด)&nbsp;<strong>เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องนุ่งห่ม&nbsp;</strong>เป็นปัจจัยทอนที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตและความต้องการในช่วงการระบาดของโควิด-19</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;เงินเฟ้อพื้นฐาน&nbsp;</strong>(เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว)&nbsp;<strong>ขยายตัวร้อยละ&nbsp;</strong><strong>0.14 (YoY)</strong>&nbsp;ชะลอตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.52&nbsp;<strong>เงินเฟ้อทั่วไป</strong>&nbsp;เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2564&nbsp;<strong>ลดลงร้อยละ 0.</strong><strong>12 (MoM)&nbsp;</strong>และ<strong>เฉลี่ย&nbsp;</strong><strong>7 เดือน</strong>&nbsp;(ม.ค.- ก.ค.) ปี 2564&nbsp;<strong>สูงขึ้นร้อยละ 0.8</strong><strong>3 (AoA)&nbsp;</strong>เงินเฟ้อที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งขยายตัวในอัตรา&nbsp;&nbsp; ที่ชะลอตัวเช่นกัน อาทิ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า ยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ยังคงขยายตัวได้แต่ในอัตราที่ชะลอลง<strong>&nbsp;โดยดัชนีราคาผู้ผลิต ขยายตัวร้อยละ&nbsp;</strong><strong>5.0 (YOY)</strong>&nbsp;จากร้อยละ 5.5 ในเดือนก่อนหน้า&nbsp;<strong>และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ&nbsp;</strong><strong>7.8 (YOY)</strong>&nbsp;จากร้อยละ 10.1 ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับการลดลงเล็กน้อยของอัตราการใช้กำลังการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ดัชนีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในประเทศ และปริมาณการจำหน่ายเหล็ก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 แต่การส่งออกสินค้าของไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อและอุปสงค์ในประเทศ</p>

<p><strong>แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม&nbsp;</strong><strong>2564</strong></p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;</strong>มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากมาตรการลดค่าครองชีพผู้บริโภคของภาครัฐ ทั้งการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ในรอบเดือนกรกฎาคม &ndash; สิงหาคม 2564 อีกทั้งราคาพลังงานที่ถึงแม้&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp; จะมีแนวโน้มสูงขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลงในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากฐานราคาของปีก่อนเริ่มสูงกว่าช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัวน้อยลง สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ อย่างไรก็ตาม แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง น่าจะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ คือที่ร้อยละ 1.0 &ndash; 3.0</p>

<p><strong>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;</strong>ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.7 &ndash; 1.7 (ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง</p>

<p><img src="http://uploads.tpso.go.th/image-20230906091256-1.jpeg" /></p>

สรุปสถานการณ์ราคาสินค้าและบริการ เดือนกรกฎาคม 2564

ภาพรวม

                     ดัชนีราคาผู้บริโภค หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือนกรกฎาคม 2564 ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมาตรการ   ลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาล และการลดลงของราคาอาหารสดบางประเภทยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัว ขณะที่ราคาสินค้ากลุ่มพลังงานยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

                     เงินเฟ้อในเดือนนี้ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวร้อยละ 0.45 (YoY) ชะลอตัวจากร้อยละ 1.25 ในเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการขยายตัวต่อเนื่องของสินค้าในกลุ่มพลังงานที่ร้อยละ 6.30 และการสูงขึ้นของอาหารสดบางประเภท อาทิ เนื้อสุกร ไข่ไก่และผลไม้สด ตามความต้องการในช่วงล็อกดาวน์ ประกอบกับเกิดโรคระบาดในสุกรส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยลง นอกจากนี้ ไข่ไก่และผลไม้สด ฐานราคาของปีที่ผ่านมาอยู่ระดับต่ำ ขณะที่มาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ ทั้งการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ในรอบเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564 และการลดค่าเล่าเรียน-ค่าธรรมเนียมการศึกษา รวมทั้ง การลดลงของอาหารสดบางประเภท (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ผักสด) เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องนุ่งห่ม เป็นปัจจัยทอนที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือนนี้ชะลอตัว สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ สอดคล้องกับปริมาณผลผลิตและความต้องการในช่วงการระบาดของโควิด-19

                     เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออกแล้ว) ขยายตัวร้อยละ 0.14 (YoY) ชะลอตัวเล็กน้อยจากเดือนก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 0.52 เงินเฟ้อทั่วไป เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2564 ลดลงร้อยละ 0.12 (MoM) และเฉลี่ย 7 เดือน (ม.ค.- ก.ค.) ปี 2564 สูงขึ้นร้อยละ 0.83 (AoA) เงินเฟ้อที่ขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวในเดือนนี้ สอดคล้องกับเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องซึ่งขยายตัวในอัตรา   ที่ชะลอตัวเช่นกัน อาทิ ยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้า ยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงรายได้เกษตรกร นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ยังคงขยายตัวได้แต่ในอัตราที่ชะลอลง โดยดัชนีราคาผู้ผลิต ขยายตัวร้อยละ 5.0 (YOY) จากร้อยละ 5.5 ในเดือนก่อนหน้า และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ 7.8 (YOY) จากร้อยละ 10.1 ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับการลดลงเล็กน้อยของอัตราการใช้กำลังการผลิต ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ดัชนีการจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในประเทศ และปริมาณการจำหน่ายเหล็ก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเศรษฐกิจของไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 แต่การส่งออกสินค้าของไทยยังมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อและอุปสงค์ในประเทศ

แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนสิงหาคม 2564

                     มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่ไม่สูงมากนัก โดยมีปัจจัยสำคัญจากมาตรการลดค่าครองชีพผู้บริโภคของภาครัฐ ทั้งการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้ำประปา ในรอบเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2564 อีกทั้งราคาพลังงานที่ถึงแม้     จะมีแนวโน้มสูงขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลงในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก แต่มีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากฐานราคาของปีก่อนเริ่มสูงกว่าช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เงินเฟ้อขยายตัวน้อยลง สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการใช้จ่ายของประชาชน ซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ อย่างไรก็ตาม แผนการจัดหาและการกระจายวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความชัดเจน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ทยอยออกมาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง น่าจะสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดไว้ คือที่ร้อยละ 1.0 – 3.0

                     ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2564 จะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.7 – 1.7 (ค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ จะมีการทบทวนอีกครั้ง

เผยแพร่เมื่อวันที่ 05 สิงหาคม 2564