ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565
การส่งออกของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีมูลค่า 23,483.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (770,819 ล้านบาท) ขยายตัวร้อยละ 16.2 การส่งออกของไทยขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ซึ่งสอดคล้องกับการส่งออกของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักทั่วโลกอยู่ในทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งภาคการผลิต และภาคการบริโภค สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตโลก (Global Manufacturing PMI) ที่อยู่เหนือระดับ 50 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 ทั้งนี้ แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน แต่ระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศยังสามารถรับมือการระบาดได้ดี โดยเฉพาะมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในภาคอุตสาหกรรมของไทยที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ภาคการผลิตเพื่อการส่งออกไม่หยุดชะงัก และยังสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังมีความไม่แน่นอนจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
มูลค่าการค้ารวม
- มูลค่าการค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ เดือนกุมภาพันธ์ 2565
การส่งออก มีมูลค่า 23,483.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.2 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
การนำเข้า มีมูลค่า 23,359.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 16.8
ดุลการค้าเกินดุล 123.3 ล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ภาพรวมการส่งออก 2 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กุมภาพันธ์)
การส่งออก มีมูลค่า 44,741.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 12.2
การนำเข้า มีมูลค่า 47,144.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 18.7
ดุลการค้า 2 เดือนแรก ขาดดุล 2,403.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนกุมภาพันธ์ 2565
การส่งออก มีมูลค่า 770,818.8 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 28.2 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน
การนำเข้า มีมูลค่า 776,612.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 28.7
ดุลการค้า ขาดดุล 5,793.2 ล้านบาทภาพรวมการส่งออก 2 เดือนแรกของปี 2565 (มกราคม-กุมภาพันธ์)
การส่งออก มีมูลค่า 1,479,131.1 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 24.5
การนำเข้า มีมูลค่า 1,579,300.8 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 31.6
ดุลการค้า 2 เดือนแรก ขาดดุล 100,169.7 ล้านบาท
การส่งออกรายตลาด
การส่งออกไปยังตลาดสำคัญส่วนใหญ่ขยายตัวต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการส่งออกไปทวีปออสเตรเลีย และทวีปแอฟริกาที่ปรับดีขึ้น โดยหดตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อน ด้วยอานิสงส์จากแนวโน้มการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ทำให้มีความต้องการซื้อจากประเทศคู่ค่าเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกไปยังกลุ่มตลาดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ (1) ตลาดหลัก ขยายตัวร้อยละ 15.8 โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ ร้อยละ 27.2 จีน ร้อยละ 3.0 ญี่ปุ่น ร้อยละ 2.6 อาเซียน (5) ร้อยละ 31.5 CLMV ร้อยละ 14.4 และสหภาพยุโรป (27) ร้อยละ 8.3 (2) ตลาดรอง ขยายตัวร้อยละ 12.2 ขยายตัวในตลาดเอเชียใต้ ร้อยละ 14.2 ตะวันออกกลาง ร้อยละ 13.8 ลาตินอเมริกา ร้อยละ 8.2 และรัสเซียและกลุ่มประเทศ CIS ร้อยละ 23.0 ขณะที่ทวีปออสเตรเลีย และทวีปแอฟริกา หดตัวร้อยละ 2.5 และร้อยละ 0.8 ตามลำดับ และ (3) ตลาดอื่น ๆ ขยายตัวร้อยละ 260.8
หมายเหตุ
กรมศุลกากรมีการปรับปรุงรหัสสถิติสินค้าตามพิกัดศุลกากรเพื่อให้สอดคล้องกับพิกัดศุลกากรระบบฮาร์โมไนซ์อาเซียน (AHTN) ฉบับปี 2022 ทำให้โครงสร้างหรือจำนวนรายการสินค้าส่งออก-นำเข้ามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในขณะนี้การจัดกลุ่มสินค้าตามโครงสร้างสินค้าของกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างปรับให้สอดคล้องกับรหัสสถิติสินค้าระบบพิกัดศุลกากรฉบับปัจจุบัน โดยจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศได้อย่างสมบูรณ์ในไตรมาสแรกของปี 2565