รมช.พณ. เผยสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรไทย พร้อมแนะทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลภาคเกษตร

รมช.พณ. เผยสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรไทย พร้อมแนะทุกภาคส่วนช่วยกันดูแลภาคเกษตร

avatar

Administrator


5324


หมวดหมู่:

<p><strong>ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม:&nbsp;</strong><a href="https://uploads.tpso.go.th/รมช.พณ. เผยสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรไทย_1.pdf" target="_blank">รมช.พณ. เผยสถิติการส่งออกสินค้าเกษตรไทย_1.pdf</a></p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ว่า GDP ภาคเกษตร มีสัดส่วนเพียง 9% ของ GDP ประเทศ เท่านั้น และสถิติการส่งออกของไทย แม้ว่าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าสินค้าอุตสาหกรรมอยู่มาก โดยในปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีสัดส่วน 17.3% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 78.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย (ที่เหลืออีก 4.1% เป็นสินค้าแร่และเชื้อเพลิง)<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;ภาพรวม ปี 2566 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 284,561.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นมูลค่า 49,203.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.69 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 17.3% ของมูลค่าการส่งออกรวม (สินค้าเกษตร 9.4% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 7.9%) แบ่งเป็นสินค้าเกษตร 26,801.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (0.92 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 0.2% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 22,401.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (มูลค่า 0.77 ล้านล้านบาท) หดตัว 1.7%<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;สินค้าเกษตรส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) หรือมีการแปรรูปขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องเร่งส่งเสริมและผลักดันให้ไทยส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น อาทิ อาหารแห่งอนาคต สินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูป และสารสกัดจากผลผลิตการเกษตร&nbsp;สินค้าเกษตรส่งออก 5 อันดับแรก (ผลไม้ ข้าว ไก่ มันสำปะหลัง และยางพารา) มีมูลค่าการส่งออกรวมกัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 87.7% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าเกษตรเพียงไม่กี่รายการ อีกทั้งมูลค่าส่งออกไปยังตลาดส่งออก 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ซึ่งแสดงว่าไทยพึ่งพาตลาดส่งออกหลักเพียงไม่กี่ตลาดเช่นกัน โดยเฉพาะจีนที่มีสัดส่วนสูงถึง 42.0% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด จึงควรสร้างความหลากหลายของสินค้าและตลาดส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาเพียงบางสินค้าและบางตลาดมากเกินไป<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; รมช.พณ. กล่าวว่า&nbsp;การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และกระจายรายได้สู่เกษตรกรซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนถึง 46% ของประชากรทั่วประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังช่วยดูดซับผลผลิตส่วนเกินที่ไม่สามารถบริโภคภายในประเทศได้หมด อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้เศรษฐกิจภาคเกษตรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำผลการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับโครงสร้างการส่งออกสินค้าเกษตร อาทิ มุ่งสู่การส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปรับสินค้าส่งออกให้มีความหลากหลายมากขึ้น และกระจายตลาดส่งออกใหม่ ๆ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม (สหรัฐฯ จีน และอาเซียน) รวมทั้งต้องพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้า ปฏิบัติตามกติกาการค้าใหม่ ๆ อาทิ ไม่ทำลายหรือบุกรุกพื้นที่ป่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้เป็นไปตามที่ตลาดคู่ค้าต้องการ</p>

ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับรายงานข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ว่า GDP ภาคเกษตร มีสัดส่วนเพียง 9% ของ GDP ประเทศ เท่านั้น และสถิติการส่งออกของไทย แม้ว่าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้เป็นจำนวนมาก แต่ยังมีสัดส่วนน้อยกว่าสินค้าอุตสาหกรรมอยู่มาก โดยในปี 2566 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมีสัดส่วน 17.3% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรมมีสัดส่วน 78.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย (ที่เหลืออีก 4.1% เป็นสินค้าแร่และเชื้อเพลิง)
          ภาพรวม ปี 2566 ไทยส่งออกเป็นมูลค่า 284,561.8 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรเป็นมูลค่า 49,203.1 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.69 ล้านล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วน 17.3% ของมูลค่าการส่งออกรวม (สินค้าเกษตร 9.4% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 7.9%) แบ่งเป็นสินค้าเกษตร 26,801.7 ล้านเหรียญสหรัฐ (0.92 ล้านล้านบาท) ขยายตัว 0.2% และสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร 22,401.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (มูลค่า 0.77 ล้านล้านบาท) หดตัว 1.7%
          สินค้าเกษตรส่งออกของไทยส่วนใหญ่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) หรือมีการแปรรูปขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น จึงต้องเร่งส่งเสริมและผลักดันให้ไทยส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูงและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรเพิ่มขึ้น อาทิ อาหารแห่งอนาคต สินค้าเกษตรอินทรีย์แปรรูป และสารสกัดจากผลผลิตการเกษตร สินค้าเกษตรส่งออก 5 อันดับแรก (ผลไม้ ข้าว ไก่ มันสำปะหลัง และยางพารา) มีมูลค่าการส่งออกรวมกัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 87.7% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด แสดงให้เห็นว่า ไทยพึ่งพาการส่งออกสินค้าเกษตรเพียงไม่กี่รายการ อีกทั้งมูลค่าส่งออกไปยังตลาดส่งออก 5 อันดับแรก คิดเป็นสัดส่วน 67.5% ของการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด ซึ่งแสดงว่าไทยพึ่งพาตลาดส่งออกหลักเพียงไม่กี่ตลาดเช่นกัน โดยเฉพาะจีนที่มีสัดส่วนสูงถึง 42.0% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหมด จึงควรสร้างความหลากหลายของสินค้าและตลาดส่งออกสินค้าเกษตร เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาเพียงบางสินค้าและบางตลาดมากเกินไป
          รมช.พณ. กล่าวว่า การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และกระจายรายได้สู่เกษตรกรซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนถึง 46% ของประชากรทั่วประเทศ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจไทย อีกทั้งยังช่วยดูดซับผลผลิตส่วนเกินที่ไม่สามารถบริโภคภายในประเทศได้หมด อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันสนับสนุนให้เศรษฐกิจภาคเกษตรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการนำผลการวิจัยและเทคโนโลยีมาช่วยในการเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนด้านต่าง ๆ รวมถึงการปรับโครงสร้างการส่งออกสินค้าเกษตร อาทิ มุ่งสู่การส่งออกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ปรับสินค้าส่งออกให้มีความหลากหลายมากขึ้น และกระจายตลาดส่งออกใหม่ ๆ ควบคู่กับการรักษาตลาดเดิม (สหรัฐฯ จีน และอาเซียน) รวมทั้งต้องพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้า ปฏิบัติตามกติกาการค้าใหม่ ๆ อาทิ ไม่ทำลายหรือบุกรุกพื้นที่ป่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อให้เป็นไปตามที่ตลาดคู่ค้าต้องการ

เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567