สมรสเท่าเทียมโอกาสเติบโตธุรกิจบริการไทย

สมรสเท่าเทียมโอกาสเติบโตธุรกิจบริการไทย

avatar

Administrator


85


<p><strong>ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม:&nbsp;</strong><a href="https://uploads.tpso.go.th/สมรสเท่าเทียมโอกาสเติบโตธุรกิจบริการ .pdf" target="_blank">สมรสเท่าเทียมโอกาสเติบโตธุรกิจบริการ .pdf</a></p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรไทยได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติรับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมวาระแรกแล้ว และมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างกฎหมาย ซึ่งหากไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยขยายสิทธิการสมรสให้ครอบคลุมบุคคลในทุกเพศให้สามารถสมรสกันได้อย่างถูกกฎหมายและสนับสนุนให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เท่าเทียมกับคู่รักชาย-หญิง และไทยจะกลายเป็นชาติที่ 37 ของโลกและชาติแรกของอาเซียนที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทย นอกจากจะช่วยยกระดับด้านความเท่าเทียมทางเพศของไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะธุรกิจบริการในหลากหลายสาขา จากการศึกษาของสถาบันด้านการวิจัย The William Institute ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ภายหลังที่สหรัฐฯ ได้มีการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมทั่วประเทศในช่วงปี 2558-2562 สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คำนวณจากค่าใช้จ่ายที่คู่รักเพศเดียวกันใช้ในการจัดงานแต่งงานมูลค่าประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยวของผู้เข้าร่วมงานแต่งงาน 543.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้จากการเก็บภาษีการจัดงานแต่งงาน 244.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นถึง 45,000 ราย</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;ธุรกิจบริการที่จะมีโอกาสเติบโตจากการมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีหลากหลายธุรกิจ อาทิ <strong>ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงาน เช่น ธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ ธุรกิจเช่าชุดแต่งงาน</strong> สิทธิในการสมรสจะช่วยเพิ่มความต้องการในการจัดงานเฉลิมฉลองการแต่งงานมากขึ้น โดยบริษัทให้บริการจัดงานแต่งงานของไทย Wonders and Weddings คาดการณ์ว่ายอดจองการจัดงานแต่งงานจะเพิ่มมากขึ้น โดยการจองจัดงานแต่งงานของกลุ่ม LGBTQIA+<sup>1</sup> จะคิดเป็นร้อยละ 25 จากยอดจองทั้งหมด<sup>2</sup> การจัดงานแต่งงานถือเป็นการฉลองก้าวสำคัญ (milestone) ของชีวิตของหลายคน ซึ่งกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศก็ต้องการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญนี้เช่นกัน โดยจากข้อมูลของบริษัท IPSOS ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านตลาดข้ามชาติให้ข้อมูลว่าประชากรร้อยละ 9 ของไทย ระบุตนเองว่าเป็นกลุ่ม LGBTQIA+&nbsp;ซึ่งความต้องการในการจัดงานเฉลิมฉลองที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงานเติบโตอย่างมาก</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;เพื่อคว้าโอกาสจากการมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ไทยควรผลักดันในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแต่งงานของทุกเพศสภาพในเอเชีย เนื่องจากความพร้อมในด้านกฎหมาย ความเป็นเลิศในด้านการจัดงานและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องของไทย และการมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางด้านธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานแต่งงานและฮันนีมูน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับไทยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ภาครัฐต้องคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกในด้านการจดทะเบียนสมรส โดยเฉพาะในเรื่องเอกสาร วีซ่า ระยะเวลาในการดำเนินการ และสนับสนุนให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในการจัดงานแต่งงานมีมาตรฐานและคุณภาพ เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับคู่รักต่างชาติ เพื่อที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของคู่รัก LGBTQIA+ ทั่วโลกในการแต่งงาน</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;<strong>ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร</strong> การมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยที่เป็นจุดหมายการเดินทางที่เป็นมิตร โดยข้อมูลจาก World Travel &amp; Tourism Council ระบุว่า สัดส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ คิดเป็นร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คิดเป็นร้อยละ 16 ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณ 195 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ชอบเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ดังนั้น การมีกฎหมายที่รองรับและสภาพสังคมที่เป็นมิตรจะแสดงถึงการยอมรับและให้เกียรติกลุ่ม LGBTQIA+ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้รู้สึกปลอดภัยและสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;<strong>ธุรกิจประกันภัยและธุรกิจทางการเงิน</strong> เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่จะเติบโตมากขึ้น กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้สนับสนุนให้คู่รักหลากหลายเพศได้รับสิทธิในการดูแลชีวิตของคู่รัก สิทธิในการดูแลจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส การเป็นตัวแทนทางกฎหมายและการสามารถรับมรดกจากคู่สมรสได้ ทำให้คู่ LGBTQIA+ สามารถทำประกันชีวิตให้กันและสามารถเป็นผู้รับผลประโยชน์ หรือสร้างความมั่นคงในฐานะครอบครัว เช่น การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านร่วมกัน การถือกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินร่วมกัน ซึ่งการได้รับการรับรองจากรัฐจะช่วยสร้างความเชื่อถือให้กับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ส่งผลทำให้ธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการในการทำประกันภัยหรือการร่วมสร้างครอบครัวหรือธุรกิจร่วมกับคู่รัก</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจอื่น ๆ เฉพาะกลุ่ม เช่น ธุรกิจการให้คำปรึกษาและการวางแผนครอบครัวสำหรับคู่รักหลากหลายเพศ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงและนันทนาการ โดยเฉพาะซีรีส์วาย ซึ่งสร้างรายได้ให้กับไทยเป็นอย่างมาก และยังสามารถสอดแทรกวัฒนธรรม สินค้าและบริการของไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้ไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลก รวมถึงโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลระดับโลก World Pride ซึ่งจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในระดับสากลและก่อให้เกิดรายได้ในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องของไทยได้อย่างมหาศาล</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้จะมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับไทย และมีส่วนเสริมในการผลักดันเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคบริการให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภค LGBTQIA+ เป็นกลุ่มผู้บริโภคศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาภาคบริการของไทยเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคบริการไทยผ่านตลาดกลุ่มผู้บริโภค LGBTQIA+ มากขึ้น</p>

<p>&nbsp;</p>

<hr />
<p><sup>1&nbsp;</sup>LGBTQIA+ คือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ย่อมากจาก L - Lesbian ผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน G - Gay ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน B - Bisexual หรือกลุ่มที่รักได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง T - Transgender คือกลุ่มคนข้ามเพศ จากเพศชายเป็นเพศหญิง หรือเพศหญิงเป็นเพศชาย Q - Queer คือ กลุ่มคนที่พึงพอใจต่อเพศใดเพศหนึ่ง โดยไม่ได้จำกัดในเรื่องเพศ และความรัก I - Intersex คือ ผู้ที่เกิดมาพร้อมคุณสมบัติทางกายภาพของฮอร์โมนหรือพันธุรกรรมมีอวัยวะทั้งเพศชายและหญิงรวมกัน หรือภาษาไทยให้ความหมายว่า &ldquo;ภาวะเพศกำกวม&rdquo; A - Asexual คือ กลุ่มคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเพศ หรือไม่รู้สึกโรแมนติก + (plus) - เครื่องหมายบวก คือความหลากหลายที่อาจจะมีนอกเหนือจากที่กล่าวมา</p>

<p><sup>2&nbsp;&nbsp;</sup>Aljazeera. https://www.aljazeera.com/news/2024/4/8/fears-of-discrimination-persist-in-thailand-despite-looming-same-sex-marriage-bill</p>

ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรไทยได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติรับหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมวาระแรกแล้ว และมีมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่างกฎหมาย ซึ่งหากไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยขยายสิทธิการสมรสให้ครอบคลุมบุคคลในทุกเพศให้สามารถสมรสกันได้อย่างถูกกฎหมายและสนับสนุนให้กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เท่าเทียมกับคู่รักชาย-หญิง และไทยจะกลายเป็นชาติที่ 37 ของโลกและชาติแรกของอาเซียนที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม

          การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทย นอกจากจะช่วยยกระดับด้านความเท่าเทียมทางเพศของไทยแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะธุรกิจบริการในหลากหลายสาขา จากการศึกษาของสถาบันด้านการวิจัย The William Institute ในสหรัฐอเมริกา พบว่า ภายหลังที่สหรัฐฯ ได้มีการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียมทั่วประเทศในช่วงปี 2558-2562 สามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ถึง 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (คำนวณจากค่าใช้จ่ายที่คู่รักเพศเดียวกันใช้ในการจัดงานแต่งงานมูลค่าประมาณ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การใช้จ่ายด้านการเดินทางท่องเที่ยวของผู้เข้าร่วมงานแต่งงาน 543.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้จากการเก็บภาษีการจัดงานแต่งงาน 244.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างการจ้างงานในธุรกิจที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้นถึง 45,000 ราย

          ธุรกิจบริการที่จะมีโอกาสเติบโตจากการมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงาน เช่น ธุรกิจสตูดิโอถ่ายภาพ ธุรกิจเช่าชุดแต่งงาน สิทธิในการสมรสจะช่วยเพิ่มความต้องการในการจัดงานเฉลิมฉลองการแต่งงานมากขึ้น โดยบริษัทให้บริการจัดงานแต่งงานของไทย Wonders and Weddings คาดการณ์ว่ายอดจองการจัดงานแต่งงานจะเพิ่มมากขึ้น โดยการจองจัดงานแต่งงานของกลุ่ม LGBTQIA+1 จะคิดเป็นร้อยละ 25 จากยอดจองทั้งหมด2 การจัดงานแต่งงานถือเป็นการฉลองก้าวสำคัญ (milestone) ของชีวิตของหลายคน ซึ่งกลุ่มบุคคลหลากหลายทางเพศก็ต้องการเฉลิมฉลองช่วงเวลาสำคัญนี้เช่นกัน โดยจากข้อมูลของบริษัท IPSOS ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านตลาดข้ามชาติให้ข้อมูลว่าประชากรร้อยละ 9 ของไทย ระบุตนเองว่าเป็นกลุ่ม LGBTQIA+ ซึ่งความต้องการในการจัดงานเฉลิมฉลองที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานแต่งงานเติบโตอย่างมาก

          เพื่อคว้าโอกาสจากการมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ไทยควรผลักดันในการเป็นศูนย์กลางการจัดงานแต่งงานของทุกเพศสภาพในเอเชีย เนื่องจากความพร้อมในด้านกฎหมาย ความเป็นเลิศในด้านการจัดงานและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องของไทย และการมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทางด้านธรรมชาติ วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นสถานที่สำหรับการจัดงานแต่งงานและฮันนีมูน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับไทยเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี หากกฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถจดทะเบียนสมรสได้ ภาครัฐต้องคำนึงถึงการอำนวยความสะดวกในด้านการจดทะเบียนสมรส โดยเฉพาะในเรื่องเอกสาร วีซ่า ระยะเวลาในการดำเนินการ และสนับสนุนให้ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องในการจัดงานแต่งงานมีมาตรฐานและคุณภาพ เพื่อสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับคู่รักต่างชาติ เพื่อที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ไทยเป็นจุดหมายยอดนิยมของคู่รัก LGBTQIA+ ทั่วโลกในการแต่งงาน

          ธุรกิจท่องเที่ยวและร้านอาหาร การมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเฉพาะกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ในการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยที่เป็นจุดหมายการเดินทางที่เป็นมิตร โดยข้อมูลจาก World Travel & Tourism Council ระบุว่า สัดส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยว LGBTQIA+ คิดเป็นร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก และค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คิดเป็นร้อยละ 16 ของค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวทั้งหมด หรือคิดเป็นประมาณ 195 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถือว่าเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง ชอบเดินทางท่องเที่ยว สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ดังนั้น การมีกฎหมายที่รองรับและสภาพสังคมที่เป็นมิตรจะแสดงถึงการยอมรับและให้เกียรติกลุ่ม LGBTQIA+ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้รู้สึกปลอดภัยและสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น

          ธุรกิจประกันภัยและธุรกิจทางการเงิน เป็นอีกหนึ่งธุรกิจบริการที่จะเติบโตมากขึ้น กฎหมายสมรสเท่าเทียมได้สนับสนุนให้คู่รักหลากหลายเพศได้รับสิทธิในการดูแลชีวิตของคู่รัก สิทธิในการดูแลจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส การเป็นตัวแทนทางกฎหมายและการสามารถรับมรดกจากคู่สมรสได้ ทำให้คู่ LGBTQIA+ สามารถทำประกันชีวิตให้กันและสามารถเป็นผู้รับผลประโยชน์ หรือสร้างความมั่นคงในฐานะครอบครัว เช่น การกู้เงินเพื่อซื้อบ้านร่วมกัน การถือกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินร่วมกัน ซึ่งการได้รับการรับรองจากรัฐจะช่วยสร้างความเชื่อถือให้กับธุรกิจประกันภัยและธุรกิจบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ส่งผลทำให้ธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการในการทำประกันภัยหรือการร่วมสร้างครอบครัวหรือธุรกิจร่วมกับคู่รัก

         นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจอื่น ๆ เฉพาะกลุ่ม เช่น ธุรกิจการให้คำปรึกษาและการวางแผนครอบครัวสำหรับคู่รักหลากหลายเพศ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิงและนันทนาการ โดยเฉพาะซีรีส์วาย ซึ่งสร้างรายได้ให้กับไทยเป็นอย่างมาก และยังสามารถสอดแทรกวัฒนธรรม สินค้าและบริการของไทยได้เป็นอย่างดี ทำให้ไทยเป็นที่รู้จักในตลาดโลก รวมถึงโอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลระดับโลก World Pride ซึ่งจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของไทยในระดับสากลและก่อให้เกิดรายได้ในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวข้องของไทยได้อย่างมหาศาล

         กฎหมายสมรสเท่าเทียมนี้จะมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับไทย และมีส่วนเสริมในการผลักดันเศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคบริการให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งกลุ่มผู้บริโภค LGBTQIA+ เป็นกลุ่มผู้บริโภคศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งไทยสามารถใช้โอกาสนี้ในการพัฒนาภาคบริการของไทยเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคบริการไทยผ่านตลาดกลุ่มผู้บริโภค LGBTQIA+ มากขึ้น

 


LGBTQIA+ คือ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ย่อมากจาก L - Lesbian ผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกัน G - Gay ผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกัน B - Bisexual หรือกลุ่มที่รักได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง T - Transgender คือกลุ่มคนข้ามเพศ จากเพศชายเป็นเพศหญิง หรือเพศหญิงเป็นเพศชาย Q - Queer คือ กลุ่มคนที่พึงพอใจต่อเพศใดเพศหนึ่ง โดยไม่ได้จำกัดในเรื่องเพศ และความรัก I - Intersex คือ ผู้ที่เกิดมาพร้อมคุณสมบัติทางกายภาพของฮอร์โมนหรือพันธุรกรรมมีอวัยวะทั้งเพศชายและหญิงรวมกัน หรือภาษาไทยให้ความหมายว่า “ภาวะเพศกำกวม” A - Asexual คือ กลุ่มคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องเพศ หรือไม่รู้สึกโรแมนติก + (plus) - เครื่องหมายบวก คือความหลากหลายที่อาจจะมีนอกเหนือจากที่กล่าวมา

2  Aljazeera. https://www.aljazeera.com/news/2024/4/8/fears-of-discrimination-persist-in-thailand-despite-looming-same-sex-marriage-bill

เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567