สนค. แนะ ผู้ประกอบการภาคบริการ รับมือสภาพอากาศเปลี่ยน พลิกวิกฤตเอลนีโญ-ลานีญา

สนค. แนะ ผู้ประกอบการภาคบริการ รับมือสภาพอากาศเปลี่ยน พลิกวิกฤตเอลนีโญ-ลานีญา

avatar

Administrator


270


<p><strong>ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม:&nbsp;</strong><a href="https://uploads.tpso.go.th/สนค. แนะ ผู้ประกอบการภาคบริการ รับมือสภาพอากาศเปลี่ยน.pdf" target="_blank">สนค. แนะ ผู้ประกอบการภาคบริการ รับมือสภาพอากาศเปลี่ยน.pdf</a></p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;สนค. แนะผู้ประกอบการภาคบริการ คว้าโอกาส-หลีกเลี่ยงผลกระทบ ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 นี้ ระบุ ร้านค้า ร้านอาหาร ขนส่ง ท่องเที่ยว สุขภาพ ช่าง อาจกระทบทั้งทางบวกและลบ ต้องเตรียมวางแผนรับมือและคว้าโอกาส ชี้ช่องธุรกิจบริการข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ เป็นตัวช่วยสถานการณ์</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ในปี 2567 นี้ ฤดูร้อนของไทยจะยาวนานไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยปรากฏการณ์เอลนีโญจะยังมีผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้อากาศแห้งแล้งและร้อนจัด ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นกลาง<sup>1</sup> ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และมีโอกาสถึงร้อยละ 60 ที่จะเข้าสู่ช่วงปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งอาจทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันและน้ำท่วมได้</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมวางแผนเพาะปลูกและใช้น้ำในการผลิตอย่างรอบคอบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศในปี 2567 นี้แล้ว แต่อาจยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการภาคบริการให้เตรียมความพร้อมรับมือเท่าที่ควร ทั้งนี้ ภาคบริการเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของไทย โดยในปี 2566 ภาคบริการมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 61 ของ GDP ไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.93 ล้านล้านบาท และครอบคลุมธุรกิจหมวดใหญ่ ๆ ถึง 15 สาขา เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบได้ทั้งทางบวกและทางลบต่อผู้ประกอบการภาคบริการ จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบและคว้าโอกาสจากผลกระทบทางบวก</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;ธุรกิจที่อาจพิจารณาเตรียมการเพื่อ<u><strong>คว้าโอกาส</strong></u>จากผลกระทบทางบวกจากสภาพอากาศตามที่คาดการณ์ อาทิ <strong>ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ</strong> ซึ่งอาจพิจารณาจัดหาสินค้า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ พัดลม ตู้เย็น ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่เอลนีโญยังไม่คลี่คลาย และจัดหาสินค้ากลุ่มร่ม เสื้อกันฝนและเครื่องเป่าแห้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงฤดูฝนที่อาจได้รับอิทธิพลจากลานีญา <strong>กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร</strong> อาจคว้าโอกาสจัดจำหน่ายอาหารที่เหมาะสมกับอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญ เช่น ไอศกรีม น้ำแข็งไส หรืออาหารไทย อาทิ ข้าวแช่ และแตงโมปลาแห้ง ซึ่งอยู่ในกระแสซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วย ส่วน<strong>กลุ่มธุรกิจซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์</strong> ก็อาจพิจารณาเตรียมพร้อมการให้บริการซ่อมแซมยานพาหนะที่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญและอุทกภัยในช่วงลานีญา ในขณะที่ธุรกิจ<strong>กลุ่มการดูแลรักษาสุขภาพ</strong>ก็อาจต้องพิจารณาเตรียมการดูแลรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น การเป็นลมร้อน ลมแดด อาหารเป็นพิษ ในช่วงอากาศร้อนจัด ไข้หวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง และโรคน้ำกัดเท้า ตาแดง ตลอดจนไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคติดต่อและอันตรายที่มาจากน้ำท่วม</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;นอกจากที่กล่าวข้างต้น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอีกกลุ่มที่น่าจับตามองคือด้าน<strong>ข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ</strong> ซึ่งนำข้อมูลสถิติและภูมิสารสนเทศที่เกี่ยวข้องมาช่วยบริหารจัดการในธุรกิจอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น การพยากรณ์และวางแผนการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานสินค้าและบริการต่าง ๆ บริการกลุ่มนี้ยังช่วยในการวางแผนและบริหารจัดการภาคการผลิตอื่น ๆ ทั้งทางเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิต</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;ในทางกลับกัน ธุรกิจบริการอีกหลายกลุ่มก็อาจพิจารณาแผน<u><strong>รับมือ</strong></u>ผลกระทบทางลบจากสภาพอากาศ อาทิ <strong>กลุ่มห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ</strong> ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานของสินค้า เช่น อุทกภัย ทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ <strong>กลุ่มร้านอาหาร</strong> ที่ต้องบริหารจัดการวัตถุดิบให้ไม่เน่าเสียและมีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมถึงความต่อเนื่องในการดำเนินกิจการ <strong>กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ </strong>ที่อาจต้องจัดหาและซ่อมบำรุงระบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับการขนส่งในห่วงโซ่ความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่จะสูงขึ้นและอาจกระทบต่อสินค้าที่ขนส่ง รวมถึงวางแผนการใช้ยานพาหนะและเส้นทางสำรองในกรณีที่เกิดอุทกภัย <strong>กลุ่มการท่องเที่ยว</strong> เช่น โรงแรม ที่อาจต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังแขกผู้เข้าพักจากผลกระทบของสภาพอากาศด้วย</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์เอลนีโญและลานีญาจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามวัฏจักร แต่ก็อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกมีส่วนทำให้สภาพอากาศผันแปรและเกิดความสุดโต่งอย่างผิดปกติ ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคบริการ ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างมากในระบบเศรษฐกิจ ก็มีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่การทำธุรกิจที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในอนาคต อาทิ การติดตามและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินธุรกิจของตน</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาคบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วเช่นในปัจจุบัน จึงขอให้ผู้ประกอบการภาคบริการให้ความสำคัญกับการวางแผนและเตรียมการรับมือเหตุไม่คาดฝัน เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และสามารถคว้าโอกาสจากความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้</p>

<p>&nbsp;</p>

<hr />
<p><sup>1&nbsp;</sup>สภาวะเป็นกลาง คือ อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรเข้าสู่ช่วงค่าเฉลี่ย สภาพอากาศจะกลับสู่ภาวะปกติจากช่วงเอลนีโญ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง</p>

ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          สนค. แนะผู้ประกอบการภาคบริการ คว้าโอกาส-หลีกเลี่ยงผลกระทบ ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วจากปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 นี้ ระบุ ร้านค้า ร้านอาหาร ขนส่ง ท่องเที่ยว สุขภาพ ช่าง อาจกระทบทั้งทางบวกและลบ ต้องเตรียมวางแผนรับมือและคว้าโอกาส ชี้ช่องธุรกิจบริการข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ เป็นตัวช่วยสถานการณ์

          กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า ในปี 2567 นี้ ฤดูร้อนของไทยจะยาวนานไปถึงกลางเดือนพฤษภาคม โดยปรากฏการณ์เอลนีโญจะยังมีผลกระทบต่อเนื่อง ทำให้อากาศแห้งแล้งและร้อนจัด ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นกลาง1 ในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน และมีโอกาสถึงร้อยละ 60 ที่จะเข้าสู่ช่วงปรากฏการณ์ลานีญาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ซึ่งอาจทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันและน้ำท่วมได้

         นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมวางแผนเพาะปลูกและใช้น้ำในการผลิตอย่างรอบคอบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศในปี 2567 นี้แล้ว แต่อาจยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการภาคบริการให้เตรียมความพร้อมรับมือเท่าที่ควร ทั้งนี้ ภาคบริการเป็นภาคธุรกิจที่มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจของไทย โดยในปี 2566 ภาคบริการมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 61 ของ GDP ไทย คิดเป็นมูลค่ากว่า 10.93 ล้านล้านบาท และครอบคลุมธุรกิจหมวดใหญ่ ๆ ถึง 15 สาขา เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันของประชาชน ซึ่งสภาพอากาศอาจส่งผลกระทบได้ทั้งทางบวกและทางลบต่อผู้ประกอบการภาคบริการ จึงต้องเตรียมพร้อมรับมือเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบและคว้าโอกาสจากผลกระทบทางบวก

          ธุรกิจที่อาจพิจารณาเตรียมการเพื่อคว้าโอกาสจากผลกระทบทางบวกจากสภาพอากาศตามที่คาดการณ์ อาทิ ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งอาจพิจารณาจัดหาสินค้า โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ พัดลม ตู้เย็น ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์กลุ่มดังกล่าวให้เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภคในช่วงที่เอลนีโญยังไม่คลี่คลาย และจัดหาสินค้ากลุ่มร่ม เสื้อกันฝนและเครื่องเป่าแห้ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในช่วงฤดูฝนที่อาจได้รับอิทธิพลจากลานีญา กลุ่มธุรกิจร้านอาหาร อาจคว้าโอกาสจัดจำหน่ายอาหารที่เหมาะสมกับอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญ เช่น ไอศกรีม น้ำแข็งไส หรืออาหารไทย อาทิ ข้าวแช่ และแตงโมปลาแห้ง ซึ่งอยู่ในกระแสซอฟต์พาวเวอร์ของไทยด้วย ส่วนกลุ่มธุรกิจซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ ก็อาจพิจารณาเตรียมพร้อมการให้บริการซ่อมแซมยานพาหนะที่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนในช่วงเอลนีโญและอุทกภัยในช่วงลานีญา ในขณะที่ธุรกิจกลุ่มการดูแลรักษาสุขภาพก็อาจต้องพิจารณาเตรียมการดูแลรักษาผู้ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ เช่น การเป็นลมร้อน ลมแดด อาหารเป็นพิษ ในช่วงอากาศร้อนจัด ไข้หวัดในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง และโรคน้ำกัดเท้า ตาแดง ตลอดจนไข้เลือดออก ซึ่งเป็นโรคติดต่อและอันตรายที่มาจากน้ำท่วม

          นอกจากที่กล่าวข้างต้น ธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอีกกลุ่มที่น่าจับตามองคือด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ ซึ่งนำข้อมูลสถิติและภูมิสารสนเทศที่เกี่ยวข้องมาช่วยบริหารจัดการในธุรกิจอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในแต่ละฤดูกาล ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยเฉพาะในภาคบริการ เช่น การพยากรณ์และวางแผนการจัดการโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานสินค้าและบริการต่าง ๆ บริการกลุ่มนี้ยังช่วยในการวางแผนและบริหารจัดการภาคการผลิตอื่น ๆ ทั้งทางเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคส่วนที่สภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลผลิต

          ในทางกลับกัน ธุรกิจบริการอีกหลายกลุ่มก็อาจพิจารณาแผนรับมือผลกระทบทางลบจากสภาพอากาศ อาทิ กลุ่มห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่าง ๆ ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการจัดการห่วงโซ่อุปทานของสินค้า เช่น อุทกภัย ทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าได้ กลุ่มร้านอาหาร ที่ต้องบริหารจัดการวัตถุดิบให้ไม่เน่าเสียและมีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมถึงความต่อเนื่องในการดำเนินกิจการ กลุ่มบริการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่อาจต้องจัดหาและซ่อมบำรุงระบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับการขนส่งในห่วงโซ่ความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่จะสูงขึ้นและอาจกระทบต่อสินค้าที่ขนส่ง รวมถึงวางแผนการใช้ยานพาหนะและเส้นทางสำรองในกรณีที่เกิดอุทกภัย กลุ่มการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม ที่อาจต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังแขกผู้เข้าพักจากผลกระทบของสภาพอากาศด้วย

          ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์เอลนีโญและลานีญาจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามวัฏจักร แต่ก็อาจปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกมีส่วนทำให้สภาพอากาศผันแปรและเกิดความสุดโต่งอย่างผิดปกติ ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะภาคบริการ ซึ่งมีส่วนร่วมอย่างมากในระบบเศรษฐกิจ ก็มีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนสู่การทำธุรกิจที่มีความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้นในอนาคต อาทิ การติดตามและลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนจากการดำเนินธุรกิจของตน

          ผู้อำนวยการ สนค. กล่าวทิ้งท้ายว่า ธุรกิจข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาคบริการที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ และมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนในช่วงเวลาที่สภาพอากาศมีความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้วเช่นในปัจจุบัน จึงขอให้ผู้ประกอบการภาคบริการให้ความสำคัญกับการวางแผนและเตรียมการรับมือเหตุไม่คาดฝัน เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และสามารถคว้าโอกาสจากความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นได้

 


สภาวะเป็นกลาง คือ อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรเข้าสู่ช่วงค่าเฉลี่ย สภาพอากาศจะกลับสู่ภาวะปกติจากช่วงเอลนีโญ ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรสูงกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้สภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง

เผยแพร่เมื่อวันที่ 08 พฤษภาคม 2567