รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น นำทีมระดมสมองจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ

รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น นำทีมระดมสมองจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ

avatar

Administrator


643


<p><strong>ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม:&nbsp;</strong><a href="https://uploads.tpso.go.th/รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น นำทีมระดมสมองจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ_1.pdf" target="_blank">รมช.พาณิชย์ สุชาติ ชมกลิ่น นำทีมระดมสมองจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ_1.pdf</a></p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดในภาคตะวันออกว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 &ndash; 2570 ซึ่งถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศให้เป็นเอกภาพ รวมทั้งมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีเป้าหมายเดียวกัน โดยร่างแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วยข้อเสนอสำคัญ 5 เรื่อง ได้แก่ (1) การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย (2) การพัฒนาการค้าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) (3) การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร (4) การค้าสินค้าอุตสาหกรรม และ (5) การค้าธุรกิจบริการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนา ส่งเสริม ยกระดับ และแก้ไขปัญหาของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า&nbsp; &nbsp; &nbsp;&nbsp;</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &bull; <strong>การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย</strong> มีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลก เพิ่มสัดส่วนการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการค้ากับคู่ค้า FTA<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &bull; <strong>การพัฒนาการค้าของ SMEs</strong> มีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 40% ต่อ GDP และมูลค่าส่งออกของ SMEs อยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวม<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &bull; <strong>การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร</strong> มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรให้เติบโตมากกว่าปัจจุบัน<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &bull; <strong>การค้าสินค้าอุตสาหกรรม</strong> มีเป้าหมายเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ผลิตภาพรวม และมูลค่าการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม<br />
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &bull; <strong>การค้าธุรกิจบริการ</strong> มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจบริการผ่านการค้าทั้งภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนลดข้อจำกัดทางการค้าของภาคบริการ</p>

<p>&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; ในวันนี้ (31 ก.ค. 67) สนค. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนปฏิบัติการฯ ณ โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยมีหน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐจาก 8 จังหวัดเข้าร่วม ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว ในการประชุมครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้กล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเข้ามารองรับการผลักดันทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ในขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ต่างแสดงความเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 - 2570 ให้มีความสมบูรณ์รอบด้าน ทันต่อบริบทการค้าของโลกสมัยใหม่ และจะนำเสนอแผนปฏิบัติการฯ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงาน &nbsp;สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป</p>

ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนของจังหวัดในภาคตะวันออกว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ได้จัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 – 2570 ซึ่งถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อการกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศให้เป็นเอกภาพ รวมทั้งมีการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้มีเป้าหมายเดียวกัน โดยร่างแผนปฏิบัติการฯ ประกอบด้วยข้อเสนอสำคัญ 5 เรื่อง ได้แก่ (1) การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย (2) การพัฒนาการค้าของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) (3) การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร (4) การค้าสินค้าอุตสาหกรรม และ (5) การค้าธุรกิจบริการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างแผนปฏิบัติการดังกล่าว เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในการพัฒนา ส่งเสริม ยกระดับ และแก้ไขปัญหาของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายทั้งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศในระยะ 3 ปีข้างหน้า      

          • การพัฒนาและยกระดับการส่งออกของไทย มีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของสินค้าไทยในตลาดโลก เพิ่มสัดส่วนการส่งออกของสินค้าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ตลอดจนเพิ่มสัดส่วนการค้ากับคู่ค้า FTA
          • การพัฒนาการค้าของ SMEs มีเป้าหมายที่จะทำให้ธุรกิจ SMEs มีสัดส่วนมูลค่าทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 40% ต่อ GDP และมูลค่าส่งออกของ SMEs อยู่ที่ 20% ต่อมูลค่าส่งออกรวม
          • การค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการส่งออกของสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรให้เติบโตมากกว่าปัจจุบัน
          • การค้าสินค้าอุตสาหกรรม มีเป้าหมายเพิ่มอัตราการขยายตัวของ GDP ผลิตภาพรวม และมูลค่าการส่งออกของภาคอุตสาหกรรม
          • การค้าธุรกิจบริการ มีเป้าหมายเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคธุรกิจบริการผ่านการค้าทั้งภายในประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนลดข้อจำกัดทางการค้าของภาคบริการ

          ในวันนี้ (31 ก.ค. 67) สนค. จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแผนปฏิบัติการฯ ณ โรงแรมโนโวเทล มารีน่า ศรีราชา แอนด์ เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี โดยมีหน่วยงานภาคเอกชนและหน่วยงานภาครัฐจาก 8 จังหวัดเข้าร่วม ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ตราด ปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว ในการประชุมครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีได้กล่าวถึงการพัฒนาจังหวัดชลบุรีให้เป็นพื้นที่ที่รองรับการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเข้ามารองรับการผลักดันทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ในขณะที่หน่วยงานในพื้นที่ต่างแสดงความเห็นและให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะนำไปพัฒนาและปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ. 2568 - 2570 ให้มีความสมบูรณ์รอบด้าน ทันต่อบริบทการค้าของโลกสมัยใหม่ และจะนำเสนอแผนปฏิบัติการฯ ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสำนักงาน  สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเพื่อพิจารณา ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบและประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567