ดาวน์โหลดข้อมูลฉบับเต็ม: 

          สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลการศึกษาและร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ภายใต้โครงการศึกษาการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และประชาชนทั่วไป 

          นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดย สนค. ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นทั้งปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน และเป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ จึงดำเนินโครงการศึกษาการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลควบคู่กับการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และแนวทางการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ หรือ Twin Transition ซึ่งเป็นแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transition) ควบคู่กับการพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Transition) ไปพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยได้จัดสัมมนานี้เพื่อเผยแพร่ผลการศึกษาและร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

          ภายในงานสัมมนามีการนำเสนอผลการศึกษาและร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ (1) สร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับ การสนับสนุนการปรับปรุงและพัฒนาเครื่องจักรหนัก การจัดตั้งศูนย์โลจิสติกส์ และการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (2) พัฒนาทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม โดยการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาหลักสูตรการศึกษาและการฝึกอบรม (3) พัฒนามาตรฐานการรับรองสินค้าด้านสิ่งแวดล้อม ให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และ (4) เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดและผู้บริโภคยุคใหม่ที่สนใจสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และกำหนดนโยบายจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภาครัฐ ที่อาจเป็นช่องทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมทั้งนำเสนอร่างข้อเสนอแนะแนวทางการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่สำหรับภาคเอกชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ในอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ ลงทุนพัฒนาวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาทักษะแรงงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและเศรษฐกิจหมุนเวียน และสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อสร้างอำนาจในการต่อรอง

          นอกจากนี้ ยังมีการเสวนา 2 ช่วง โดยช่วงที่ 1 เป็นการเสวนาในหัวข้อ “ทางรอด ทางรุก: พลิกโฉมเศรษฐกิจไทยด้วยการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition)” ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐ และภาคเอกชน ได้แก่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท พาลาดิน เวิร์คแวร์ จำกัด และบริษัท เพอร์มา คอร์ปอเรชัน จำกัด ที่ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์และความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ในภาพรวม อาทิ สถานการณ์สำคัญของโลกที่ทำให้ภาคเอกชนต้องปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจ แรงขับเคลื่อน โอกาสและอุปสรรคในการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ของภาคเอกชน รวมถึงการหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนที่ช่วยยกระดับผู้ประกอบการ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในมิติเทคโนโลยีดิจิทัล และมิติสิ่งแวดล้อม 

          การเสวนาช่วงที่ 2 เป็นการเสวนาในหัวข้อ “เปิดเกมการค้าใหม่ของธุรกิจไทยในยุคเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition)” ซึ่งได้รับเกียรติจากวิทยากรจากหน่วยงานภาครัฐ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการค้า การตลาด และการลงทุน ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ความเห็น และมุมมองของภาครัฐต่อการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ อาทิ กฎระเบียบการค้าโลก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมความยั่งยืน และเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการปรับตัวรองรับกฎระเบียบใหม่ และบทบาทของหน่วยงานภาครัฐในการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่

          ผอ.สนค. กล่าวทิ้งท้ายว่า การผลักดันการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ (Twin Transition) ทั้งในมิติเทคโนโลยีดิจิทัลและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การค้า การบริหารจัดการ และการกำจัดของเสีย ตอบสนองต่อความต้องการของคู่ค้าและผู้บริโภคยุคใหม่ เสริมสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและธุรกิจไทยที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม การริเริ่มการเปลี่ยนผ่านแบบควบคู่ในวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงการตอบสนองต่อความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัลและมาตรการทางการค้า ด้านสิ่งแวดล้อม แต่เป็นการวางรากฐานของเศรษฐกิจไทย และเตรียมความพร้อมให้ทุกภาคส่วนสามารถพัฒนาและ ส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน